Phrasal Verbs (Two word verb) คือ กริยาวลี เป็นการนำกริยามารวมกับ adverb หรือ preposition หรือทั้งสองคำ แล้วทำให้ความหมายของคำกริยาเปลี่ยนไปจากเดิม
คำกริยาที่ตามด้วยคำบุพบท (verb + preposition) คือ คำกริยาบางตัวที่บังคับว่าต้องมีคำบุพบทต่อท้าย แต่ความหมายของคำกริยาจะไม่เปลี่ยนไป เช่น believe in (เชื่อใน....), agree with (เห็นด้วยกับ...)
แต่กริยาวลี (Phrasal Verbs) คือ กลุ่มคำที่ประกอบด้วยคำกริยาตามด้วย adverb, preposition หรือทั้งสองคำบุพ แล้วมีความหมายใหม่ ไม่ตรงตัว เช่น see off หมายถึง ไปส่ง (เช่น ที่สนามบิน) มาจาก see เป็นกริยาแปลว่า เห็น รวมกับ off ที่เป็นบุพบทแปลว่า ออกจาก
Phrasal Verbs แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
1. Separable verbs คือ กริยาวลีที่สามารถแยก verb กับ preposition ได้ มักเป็นกริยาวลีที่ต้องการกรรม เช่น
call off = ยกเลิก
give out = แจก
look up = มองหา
try on = ลองสวม
turn on = เปิด (ไฟ)
turn off = ปิด (ไฟ)
ตัวอย่าง
Tom was giving leaflets out to everyone in front of the school.
หรือเขียนว่า Tom was giving out leaflets to everyone in front of the school.
(ทอมแจกใบปลิวให้ทุกคนที่หน้าโรงเรียน)
ข้อควรระวัง :
1. ถ้ากรรมเป็นคำสรรพนามจะอยู่หน้า preposition เสมอ เช่น
You’ll need to do it over.
แต่เขียนว่า You’ll need to do over it. ไม่ได้
2. ถ้ากรรมเป็นกลุ่มคำยาว ๆ จะต้องอยู่หลังกริยาวลีเสมอ เช่น
She put on a ridiculous red hat to go to the party.
(เธอสวมหมวกสีแดงน่าตลกไปงานปาร์ตี้)
2. Inseparable Verbs คือ กริยาวลีที่ถ้ามีกรรมมารับจะไม่สามารถแยก verb กับ preposition จากกันได้ โดยกรรมจะวางไว้หลังกริยาวลีเสมอ เช่น
Look after = ดูแล เลี้ยงดู
Run into = พบโดยบังเอิญ
Cope with = จัดการกับ
Get on/off = ขึ้น/ลง (รถบัส, เรือ, เครื่องบิน, รถไฟ, จักรยาน, มอเตอร์ไซด์)
ตัวอย่าง
I always run into Nida at the mall.
(ฉันบังเอิญเจอนิดาที่ห้างสรรพสินค้าบ่อย ๆ)
We get on the bus here.
(พวกเราขึ้นรถบัสที่นี่)
Inseparable Verbs บางตัวก็ไม่ต้องมีกรรม เช่น
Carry on = ทำต่อไป
Come in = เข้ามาถึง
Grow up = เติบโต
Wake up = ตื่นนอน
ตัวอย่าง
He’s really starting to grow up now.
(ตอนนี้เขาเริ่มเติบโตขึ้นแล้ว)
We have no choice but to carry on.
(พวกเราไม่ทางเลือกอื่น นอกจากทำต่อไป)
บางครั้งกริยาวลีอาจมีบุพบทมากกว่า 1 ตัว ซึ่งเรียกว่า Three word phrasal verbs เช่น
Catch up with = ตามทัน
Run out of = หมด
Put up with = อดทนกับ
Look out for = เตรียมพร้อม
ตัวอย่าง
I can’t put up with my roommate’s noise any longer.
(ฉันไม่สามารถทนกับเสียงดัง ๆ ของเพื่อนร่วมห้องได้อีกต่อไป)
จำให้ขึ้นใจ :
1. กริยาวลีบางตัวเป็น Separable (แยกได้) และนอกนั้นจะเป็น Inseparable (แยกไม่ได้)
**กริยาวลีบางตัวเป็นทั้ง Separable และ Inseparable เช่น pass out ถ้าเป็น Separable หมายถึง แจก แจกจ่าย แต่ถ้าเป็น Inseparable หมายถึง หมดสติ ไม่รู้สึกตัว
2. กริยาวลีแบบ Inseparable ต้องวางกรรมไว้หลัง preposition เสมอ
3. กริยาวลีแบบ Separable สามารถวางกรรมไว้ระหว่าง verb กับ preposition หรือจะวางกรรมไว้หลัง preposition เหมือนกริยาวลีแบบ Inseparable ก็ได้
4. ในกริยาวลีแบบ Separable ถ้ากรรมเป็นสรรพนาม ต้องวางกรรมไว้หน้า preposition เสมอ
Phrasal verb ที่มักเจอบ่อยๆ ในข้อสอบ
blow up = ระเบิด
break in = บุกเข้าไปในสถานที่
break up with = เลิกคบ (ใคร)
bring up = เลี้ยงดูให้เติบโต
calm down = ทำใจร่มๆ, ใจเย็นๆ
catch up with = ตามทัน
check in/check out = ลงชื่อเข้าพัก/ลงชื่อออกจากโรงแรม
come across = เจอโดยบังเอิญ
count on = วางใจ
cut in = ขัดจังหวะ
dress up = แต่งตัวสวยๆ
drop in = แวะมาที่บ้าน
fill in = กรอกข้อความ
get along with = เข้ากันได้กับ (ใคร)
get back from = กลับมาจาก (ที่ไหน)
get up = ลุกจากเตียง, ลุกขึ้น
give away = ยกให้ฟรีๆ
give up = ยอมแพ้
grow up = เติบโตขึ้นมา
hand in = ส่ง
hang up = วางหู
keep on = ทำต่อไป
look after = ดูแล
look down on = ดูถูก ใคร, อะไร
look forward to = รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
pass away = เสียชีวิต (คำสุภาพของ die)
pass out = เป็นลม
put off = เลื่อน (กำหนดการ) ออกไป
put out = ดับเพลิง
put up with = อดทนกับ
run into = เจอโดยบังเอิญ
run out of = หมด
turn down = ลด (เสียง, แสง)
turn up = เพิ่ม (เสียง, แสง)
turn up = อยู่ๆ ก็โผล่มา
wake up = ตื่น
No comments:
Post a Comment